Fast & Furious 6
เร็ว & แรงทะลุนรก 6
เกริ่น
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ สิ่งที่ผมจะกลับไปแก้ไขเกี่ยวกับการดูหนังเรื่องนี้คือ ไม่ดู trailer ของหนังเรื่องนี้สิบนาทีก่อนนอนตีพุงรอดูฉากแอคชั่นมันส์ๆ เพราะอะไรน่ะหรอครับ ฉากแอคชั่นมันส์ๆ ที่ทำให้ลุ้นตัวเกร็ง ฉายใน trailer หมดแล้วครับ ทั้งรถถัง ทั้งเครื่องบิน มาหมด พอดูหนังจริงๆ ไม่ติ่นเต้นเลย เพราะรู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นยังไงต่อ จากที่เคยเขียนไว้ว่า เราควรดูตัวอย่างหนัง หรืออ่านเรื่องย่อ ก่อนดูหนังจริงๆ หรือไม่ ครั้งนี้ได้คำตอบที่ชัดเจนแล้ว อย่างน้อยก็อย่าดูสิบนาทีก่อนดูหนังจริงๆ ทิ้งไว้สักระยะ ดูให้พอรู้ว่าน่าสนุก แล้วก็ลืมๆไปซะว่า trailer มันเป็นยังไง แล้วไปดูในหนังจริงๆเอาดีกว่า ดูกันอีกรอบ ฉากหลักๆในหนัง ถูกใส่ไปใน trailer หมดเลย
---Spoiled Alert---
เรื่องย่อๆ
ภาคที่แล้ว (Fast 5) ดอม (Vin Diesel) และไบรอัน (Paul Walker) พร้อมลูกทีม ปล้นแบงค์ที่ริโอเดอจาเนโร ได้เงินมากร้อยล้าน แบ่งเงิน แยกย้าย ต่างคนต่างมีชีวิตที่สุขสบาย เพียงแต่ไม่สามารถกลับไปที่สหรัฐอเมริกาได้อีก เพราะถูกขึ้นบัญชีดำ ในขณะเดียวกัน Hobbs ตำรวจกล้ามใหญ่ ท่าดี (แต่ทีเหลว รึปล่าว) จับคนร้ายฝีมือระดับพระกาฬ (ชอว์) ไม่ได้สักที เลยต้องขอร้องให้ ทีมของดอมช่วย เพราะโจรย่อมรู้ทางกันดี ซึ่งดอมไม่อาจปฎิเสธได้เลยเพราะคนรักเก่า เลตตี้ ที่ตนคิดว่าตายไปแล้ว (ฝันศพกับมือ) กลับเป็นมือขวาของชอว์ ดอมขอค่าตอบแทนเป็นการยกเว้นโทษทั้งหมดให้กับทีมเขา เพื่อที่เขาจะได้ไปใช้กลับบ้านพร้อมครอบครัว ได้ใช้ชีวิตแบบสมบูรณ์แบบอีกครั้งนึง
My Review
กลายเป็นเทรนฮิตไปแล้วสำหรับการทำหนังภาคต่อ ซึ่งเรื่องนี้นำเอาปมที่ทิ้งไว้ภาคที่แล้ว (เลตตี้ตาย) นำมาเป็นประเด็นหลักในภาคนี้ (เลตตี้ไม่ตาย) หนังเริ่มต้นได้ดีทีเดียว เปิดตัวได้น่าสนใจ ด้วยการรวมทีมใหม่อีกครั้ง คราวนี้ไม่ได้ฉะปะดะกับศัตรูบ้านๆ แต่เป็นถึงอดีตทหาร น่าจะเพิ่มขีดความมันขึ้นไปอีก ซึ่งก็จริง ฉากขับรถไล่กัน ฉากแอคชั่นหลายๆฉาก ดูน่าเกรงขามกว่าทุกภาค ทั้งรถถัง ทั้งเครื่องบิน และหนังยังคงมีเอกลักษณ์ตัวเองอยู่ ไม่ว่าจะภาคไหนๆก็มี เช่น การโชว์รถสวยๆ เสียงเบิ้ลรถแรงๆ สาวสวยๆกับเพลงมันส์ๆ ฉากแข่งรถ

แต่สำหรับผมแล้ว สิ่งที่ผมชอบและประทับใจกับเรื่องนี้มากที่สุดนั้น ไม่ใช่ฉากแอคชั่นที่อลังการ ไม่ใช่ฉากซิ่งรถไล่ล่า ไม่ใช่สาวสวยๆกับเพลงมันส์ๆ ไม่ใช่พลอตเรื่องที่เอาคนตายฟื้นคืนชีพ แต่เป็นเพราะ มุขตลกจากเหล่าลูกทีมทั้งหลาย โดยเฉพาะ Roman (Tyrese Gibson) ผมยกให้เขาเป็นพระเอกของเรื่องนี้เลย เด่นกว่าพระเอกอย่างดอมอีก เพราะถ้าไม่ได้ตัวละครตัวนี้ หนังเรื่องนี้ก็คงไม่มีสีสันอะไร นอกจากฉากแอคชั่นแบบหูดับตับไหม้ แต่ไม่เน้นความสมจริง ด้วยท่าทาง บท ของพี่แก เกรียนๆฮาๆ พูดได้เลยว่าฉากไหนมีพี่แก ฉากนั้นเรียกเสียงหัวเราะได้ตลอด ความตลกที่มาจากพี่แก มันทำให้ผมสนุกมากกว่าฉากบู้ๆซะอีก นึกๆไปแล้วบุคลิกท่าของแก มันคล้ายๆกับนักฟุตบอลสุดเกรียนอย่าง มาริโอ บาโลเตลี่ ไม่มีผิด อีกคนนึงที่ผมฮาไม่แพ้กัน คือ Hobbs (Dwayne Johnson) ตำรวจกล้ามใหญ่ชอบทำท่าจริงจัง แต่เดาใจผู้ร้ายผิดตลอด ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่เวลาเฮียแกพูดจะเกร็งๆกล้ามคอนิดๆ เงยหน้าขึ้นหน่อย เพื่อให้ดูเกรงขาม ลองนึกถึงตอนแกเล่นมวยปล้ำดู บุคลิคเดียวกับเปี๊ยบเลย ส่วนบทของตัวเอก ดอม กับ เลตตี้ ที่เป็นพลอตหลักของเรื่องดูจืดๆชืดๆไป หนังใส่เรื่องความรักของดอมที่มีต่อเลตตี้ ถึงขนาดที่ดอมจะยอมตายแทนได้ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกซึ้งสักเท่าไหร เวลาที่มีบทพี่ดอมพูด แกไม่แสดงสีหน้าอะไรเลย ไม่รู้ว่าเป็นกับ character หรือแสดงไม่ถึงกันแน่ เหมือนแกพยายามทำตัวเหนือด้วยการไม่แสดงสีหน้า แถมตอนสุดท้ายที่พี่ดอมแกรอด แทนที่แกจะเดินหลบๆไฟ บาดเจ็บบ้างอะไรบ้าง แต่แกเดินท่ามกลางเปลวไฟ ไม่สะทกสะท้านอะไรเหมือนเดิม บทพี่แกนิ่งตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบ
ส่วนเรื่องเนื้อเรื่อง ก็ยังคงสูตรสำเร็จเดิมๆ คือ ไม่ว่าจะยังไง คนร้ายก็แพ้วันยังค่ำ ถึงแม้ว่าจะเอาเรื่องเลตตี้ ทำให้พลอตดูมีมิติมากขึ้น เพิ่มความดราม่าระหว่างดอมและเลตตี้ แต่ก็ไม่ได้ช่วยมากนัก ยังคงเน้นฉากแอคชั่นเท่ห์ระเบิดล้นจอ แต่ไม่เน้นความสมจริง เช่น ฉากรถถังถล่มกันเละ รถคันไหนวิ่งตาม วิ่งนำ ดูไม่รู้เรื่องเลย รู้แต่ว่าระเบิดเละ และตัวร้ายซึ่งเหมือนจะฉลาดมาทั้งเรื่อง แต่ดันมาตายง่ายๆตอนท้าย โดยเฉพาะฉากสุดท้าย ยื้อๆยึดๆ เครื่องบิน กับฉากต่อสู้เดิมๆ มันนานเกินไป
ท้ายเรื่อง ยังทิ้งปมให้ต่อภาค 7 ด้วยการส่ง ตัวละครลับ Jason Statham ลงมาร่วมวงอีกคน -..-
ข้อคิดที่ได้จากเรื่อง
"Every man has to have a code"
เป็นลูกผู้ชายจำเป็นต้องมีหลักการ
"We all got a weak spot"
เราทุกคนก็มีจุดอ่อนทั้งนั้น
สรุป
อาจเป็นเพราะผมดู trailer ก่อนดูหนัง ทำให้ผมไม่ตื่นเต้นกับฉากแอคชั่นมากนัก ส่วนของเนื้อหา หนังไม่มีอะไรใหม่ๆ นอกจาก เพิ่มฉากสุดท้ายเข้าไปเพื่อให้ทำภาคต่อได้อีก นอกนั้นพลอตเรื่องเดิมๆ กับฉากแอคชั่นและเนื้อเรื่องที่ไม่สมจริง แต่หนังยังสนุกได้เพราะมีฉากตลกๆจากตัวละครชื่อ Roman อยู่ ผมให้ 6/10