Pages

Saturday, June 29, 2013

World War Z (2013)

World War Z (2013)

มหาวิบัติสงคราม Z


เรื่องย่อ

เจอรี่ เลน รับบทโดยแบรดพิท อดีตทหาร UN ต้องปกป้องครอบครัวจากเชื้ออะไรก็ไม่รู้ที่ทำให้คนกลายเป็นซอมบี้ และเขาต้องหยุดมันให้ได้

My View

ฉากเปิดตัวหนัง ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร ยังไม่รู้สึกคล้อยตามมากนัก (ตัวหนังไม่ได้เกริ่นอะไรมากมายเกี่ยวกับตัวละครหรือที่มาที่ไปของซอมบี้) 
- ฉากแรกที่บ้านของพระเอก บทสนทนาก็ธรรมดาเกินไป น่าจะเน้นนิดนึงว่า เจอรี่ กำลัง จะมีเวลาให้ครอบครัวนะ หลังจากบ้างานไม่มีเวลาให้ครอบครัว พ่อจะพาไปเที่ยว ไม่ได้รู้สึกอะไรเท่าไหรสำหรับฉากนี้ ซึ่งน่าจะทำให้คล้อยตามได้มากกว่านี้
- ฉากในรถก่อนเจอซอมบี้ เหมือนยังไม่ถึง จุดสูงสุด ซอมบี้ก็โผล่มาแล้ว และพอเริ่มชุลมุน ดูเป็นมั่วๆ ใครเป็นใคร ดูไม่ออกเลย 
- ฉากที่ประทับใจ เป็นฉากที่พระเอกไปยืนเตรียมโดดตึก เพราะกลัวว่าตัวเองเป็นซอมบี้แล้วจะไปกัดลูกเมีย

กลับกลายเป็นว่า เนื้อเรื่องจริงๆของหนัง ไม่ได้เกี่ยวกับครอบครัวเท่าไหร ตอนที่นายพลขอร้องให้พานักวิทยาศาสตร์ไปตามหาต้นตอของเชื้อก็สมเหตุสมผลอยู่ แต่การที่เขียนบทให้นักวิทยาศาสตร์ ปืนลั่นใส่ตัวเองตาย นี่มันตลกมากกว่า ฉากอยู่ที่สนามบิน ก็เหมือนทำลวกๆ ปั่นจักรยาน ไปเติมน้ำมันให้เครืองบิน แล้วก็มีหัวหน้าทหารนายนึงเหมือนถูกกัด แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถึงต่อ คือ ถ้าจะไม่ทำประเด็นไหนต่อก็ไม่ต้องใส่มาในหนังก็ได้ ถ้าเป็นซีรี่ก็ว่าไปอย่าง
พลอตเรื่องดูออกจะวนไปวนมา เดินทางไปที่นู้น ซอมบี้ไล่ แล้วก็หนี เดินทางไปที่ใหม่ ซึ่งการเดินทางไปแต่ละที่ เนื่อเรื่องไม่มีอะไรมากมายเท่าไร เล่นง่ายไป สามารถใส่เข้ารายละเอียดเข้าไป ให้หนังมีมิติได้มากกว่านี้ นี่ดูหลวมๆไปนิดนึง อย่างน้อยก็ให้อะไรที่เป็นข้อสังเกตหรือปมให้คิดสักหน่อย ว่าจริงๆแล้ว มันเกิดจากอะไร พูดง่ายๆก็คือจบง่ายไป

นักแสดงแสดงไม่ค่อยโดดเด่น อาจเป็นบทกับ characters ไม่ชัดเจนเท่าไหร เลยเค้นออกมาได้ไม่สุด

-ฉากที่ชอบ ฉากพระเอกก่อนฉีดยาให้ตัวเอง เขียนป้ายบอกเพื่อนที่มองทางกล้องว่า ให้ฝากบอกครอบครัวด้วยว่าผมรักพวกเค้า แต่ก็คิดได้อีกแง่ พระเอกคงไม่ยอมฉีด ถ้าคิดว่าตัวเองไม่รอดแหงมๆ

ข้อคิด

อย่านั่งใกล้จอ จะดูไม่ค่อยรู้เรื่องและเวียนหัว

สรุป

ให้ 6/10 เป็นหนังตลาดทั่วๆไป ไม่ได้ติดตาตรึงใจอะไรมาก 

+ซอมบี้วิ่งได้
+วิธีป้องกันซอมบี้กัด
-บทสนทนาอ่อน
-เนื้อเรื่องไม่เนียน
-หลายๆฉากน่าจะอิน แต่ก็ไม่อิน

ปล. เรื่องนี้ดูในโรง แถวหน้าๆ ฉากไล่ล่าหรือชุลมุนโคตรเวียนหัวเลย จริงๆหนังอาจจะดีกว่าที่พูดมาก็ได้ ถ้านั่งไกลๆ ดูสบายๆ

Monday, June 17, 2013

Hotel Transylvania (2012)

Hotel Transylvania (2012)
โรงแรมผี หนีไปพักร้อน

เรื่องย่อ

ท่านเค้าแดร๊กคูล่า แกเป็นเจ้าของรีสอทสุดหรูห่างไกลจากผู้คน(มนุษย์) เพราะว่าแกมีความหลังที่ไม่ดีกับมนุษย์ และแกก็มีลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนคนเดียว แกจึงพยายามบอกทุกๆคนว่ามนุษย์น่ากลัวสุดๆ เพื่อให้ลูกสาวอยู่กับแกตลอดไป และทุกๆปีจะมีงานปาร์ตี้ฉลองวันเกิดให้ลูกสาวแก ผีทุกสารทิศต่างมาร่วมงานแสดงความยินดี แต่ปีนี้พิเศษหน่อย มีมนุษย์หนุ่มหน้ามลหลงมางาน อะไรจะเกิดขึ้นละทีนี้

My Review

80% ของมุกในเรื่องนี้ แป๊ก ไม่ค่อยขำเท่าไหร แต่ฉากที่ประทับใจ ฉากที่่ฉุดคะแนนขึ่นมา ฉากที่ทำให้จำหนังนี้ได้ คือ 20 นาทีสุดท้าย โดยเฉพาะฉากที่ท่านแดรก บินตามโจนาธานกลับมา คำพูด สีหน้า ท่าทาง ได้เลย มุกฮาๆหาได้จาก 20 นาทีสุดท้าย

คำคมโดนใจ

My dear boy,
I have made a terrible mistake.
I was trying to keep my baby to myself, because I knew I would always protect her.
But I realize now children need to discover things for themselves.
They'll stumble and fall; laugh and cry, but, such is life.
The truth is: You and Mavis are meant to be.
You zinged!
If she must give her trust to someone else, I'm thankful that it is you, Jonathan.
I hope you can hear me, and forgive me.

ไอ้หนูเพื่อนยาก
ครั้งนี้ข้าได้ทำความผิดใหญ่หลวง
โดยพยายามเหนี่ยวรั้งลูกให้อยู่แต่กับข้า ด้วยใจรู้ว่า...ข้าสามารถปกป้องนางได้ตลอดไป
ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว เด็กๆต้องเรียนรู้และค้นพบสิ่งต่างๆด้วยตนเอง
ต้องมีล้มลุกคลุกคลาน มีหัวเราะ มีน้ำตา ...นั่นแหละชีวิต
อันที่จริง...เธอกับเมวิสเหมือนเกิดมาคู่กัน
เธอปิ้งกัน (ศัพธ์เฉพาะในหนัง)
หางลูกข้าต้องเชื่อใจในตัวใครสักคน ข้าจะยินดียิ่ง ถ้าคนนั้นเป็นเธอ โจนาธาน
หวังว่าคงได้ยินประกาศนี้ และอภัยให้ข้า

ข้อคิด 

คนเป็นพ่อแม่ ต้องรู้จักให้ลูกเรียนรู้และค้นพบสิ่งต่างๆด้วยตนเอง ต้องมีล้มลุกคลุกคลานบ้าง ถึงจะเรียกว่าการใช้ชีวิต

ให้ 6/10

Saturday, June 15, 2013

Life of Pi (2012)

Life of Pi (2012)

ชีวิตอัศจรรย์ของพาย

ตอนแรกที่ดูตัวอย่างหนัง นึกว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับค่า Pi คณิตศาสตร์ เลยไม่ได้อยากดูเท่าไหร เพราะเคยดูเรื่อง Pi (1998) แล้วเข็ด

ดูเรื่องนี้แล้วนึกถึงหนังเรื่อง Slum Dog Millionaire + Avatar อย่างไงอย่างงั้น ที่เหมือน Slum Dog Millionaire เพราะว่าสไตล์การเล่าเป็นการเล่าจากปัจจุบัน ย้อนไปในอดีต สไตล์การเล่าเรื่องเนิบๆ แต่จับใจและน่าติดตามทุกวินาที ไม่ได้รู้สึกว่าหนังเดินเรื่องช้าหรือเอื่อยเลย ทุกช่วงเวลามีความหมายในตัวของมัน และที่เหมือน Avatar แน่นอน graphic สวยโดยเฉพาะฉากในทะเล

เริ่มต้นเรื่องด้วยภาพสัตว์สวยๆ ธรรมชาติและเพลงเบาๆ เข้ากันได้ดีทีเดียว ประทับใจทุกๆฉาก โดยเฉพาะ

  • ช่วงเล่าประวัติ 
    • ชอบมากๆ โดยเฉพาะที่มาของชื่อ Pi ( จริงๆ ชื่อ piscine molitor patel เพื่อนชอบเรียก Pissing - Hey Pissing , are you pissing right now .Hahahaha ) เมื่อเลื่อนชั้นเรียน มีการแนะนำตัว พายเลยจัดเลย ให้เพื่อนเรียกตัวเองว่า พาย พร้อมทั้งอธิบายรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับตัวเลข พาย
Adult Pi Patel: [voice over] When we returned the next year for our first day of school, I was prepared.
[we see Pi in history class as the teacher does the roll call]
Boy: Present, sir!
Indian History Teacher: Piscine Patel.
[Pi stands and walks to the front of class]
Pi Patel (12 Years): Good Morning. I am Piscine Molitor Patel. Known to all as...
[he turns and writes 'Pi' on the blackboard]
Pi Patel (12 Years): 'Pi'. The sixteenth letter of the Greek alphabet.
[he writes the symbol for 'Pi' on the blackboard]
Pi Patel (12 Years): Which is also used in mathematics to represent the ratio of any circle's circumference to its diameter. An irrational number of infinite length, usually rounded to three digits, as 3.14.
[he writes 3.14 on the board then faces the classes and points to the word 'Pi']
Pi Patel (12 Years): Pi.
[the whole class is quite]
Indian History Teacher: Very impressive, Pi. Now sit down.
[Pi walks back to his seat, the teacher continues doing the roll call]
Indian History Teacher: R. Velusami?
R. Velusami: Present, sir.
Writer: [voice over] And from then on, you were Pi?
Adult Pi Patel: [voice over] Well no, not quite.
[as Pi returns to his seat, the boy sitting behind him leans forward and whispers Pi]
Bully #2: Nice try, Pissing.
Adult Pi Patel: [voice over] But I still had the whole day ahead of me. French class was next.

Ref : 
http://www.moviequotesandmore.com/life-of-pi-movie-quotes.html#.UbypTOfddcs
    • เกี่ยวกับศาสนา ทำไมไม่มีศาสนาพุทธนะ 
  • ช่วงสะเทือนอารมณ์
    • พายเอาเนื้อให้เสือ แต่พ่อรู้เข้า เลยให้บทเรียนสำคัญ สำหรับเขา หนักพอดู หนักพอที่จะเปลี่ยนความคิด ความอยากรู้อยากเห็นหายไป โลกที่ไม่มีเสน่ห์
Pi Patel (12 Years): Animals have souls. I have seen it in their eyes.

    • พายต้องย้ายไปอยู่แคนาดา เมื่อเขาเริ่มมีความรักกับอานันดี
    • เรือล่ม - จริงๆพายน่าจะตายไปกับครอบครัวแล้ว ถ้าไม่เป็นเพราะความอยากรู้อยากเห็นของเขา ฉากที่สะเทือนอารมณ์จริงๆ
  • ทะเล
    • ส่วนหลักของเรื่อง พายกับริชาร์ดปาร์กเกอร์ กว่าพวกเขาจะอยู่ร่วมกันได้ มันไม่ง่ายเลย ถ้าไม่มีริชาร์ดปาร์กเกอร์ พายก็คงไม่รอด ถ้าไม่ได้คำสอนของพ่อ พายก็คงไม่รอดเช่นกัน แต่เขาก็ยังอยากเชื่อว่า ริชาร์ดปาร์กเกอร์จะคำราม หันหลังกลับมามอง หรือส่งสัญญาณบอกสักหน่อย เมื่อมีการจากลา อย่างน้อยก็เห็นแก่มิตรภาพและอุปสรรคที่ฟันฝ่ากันมา ใช่ มันก็แค่สัตว์ตัวนึง ไม่รู้คิดไปเองหรือป่าว ถ้าสังเกตดูดีๆ ฉากสุดท้าย ที่ริชาร์ดปาร์กเกอร์หยุด ก่อนเข้าไปในป่า หูมันลู่เข้าหัว ถอนหายใจเฮือกนึง จริงๆมันส่งสัญญาณแล้ว แต่เพราะว่ามันคือเสือมันไม่สามารถที่จะทำเล่นๆได้ (หนังประสบความสำเร็จแล้วที่ทำให้เราคิดตามได้ถึงขนาดนี้ >_<)
สรุป : 10/10
ข้อคิด : อย่าสิ้นหวัง เมื่อเจออุปสรรค ดังเช่น พาย จงนำอุปสรรคมาเป็นแรงผลักดัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ดังเช่น พาย ถ้าไม่มี ริชาร์ดปาร์กเกอร์ พายคงไม่มีชีวิตอยู่รอดโดยลำพัง